|
เป็นซอฟแวร์โปรแกรมที่ใช้ในงานตัดต่อวิดีโอและบันทึกตัดต่อเสียงที่แพร่หลายที่สุด
สามารถผลิตผลงานได้ในระดับมืออาชีพ จนถึงการนำไปออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ (Broadcasting
System ) มีการทำงานที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก
สามารถจับภาพและเสียงมาวาง (Drag & Drop) ลงบนไทม์ไลน์ (Time
line) เคลื่อนย้ายได้อิสระโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง
และไม่มีการสูญเสียของสัญญาณภาพและเสียง เพียงผู้ผลิตรายการ
ต้องมีทักษะที่ดีในการใช้โปรแกรมกับความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น
Adobe Permiere Pro เป็นโปรแกรม ที่ใช้ตัดต่อภาพ
ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเป็น รวมไปถึงวิดีโอ แม้กระทั่งการทำงาน
เกี่ยวกับเสียง ข้อความ หรือหากมีข้อมูลรูปภาพจากกล้อง ดิจิตอลอยู่แล้ว ก็สามารถนำภาพที่ได้ถ่ายไว้มาตัดต่อ
เพื่อสร้างเป็นภาพยนตร์สำหรับส่วนตัวได้
ความสามารถในการปรับและตรวจสอบค่าสี
โทนสี ความสว่างและแสงเงา ของไฟล์วีดิโอได้มากขึ้น
โดยสามารถแทนที่ค่าสีแล้วเปรียบเทียบกับไฟล์เดิมได้ในหน้าต่างเดียวกัน และยังสามารถตัดต่อเกี่ยวกับระบบเสียงได้มากขึ้นAdobe
Premiere Pro เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างเอ็ฟเฟ็ครูปแบบต่าง
ๆให้กับเสียง อีกทั้งยังเพิ่มการปรับแต่งเสียง ในระบบ 5.1 Channel นอกจากนั้นยังสามารถสร้างเสียงคุณภาพสูงได้ด้วย Audio Mixer
สนับสนุนการทำงานบนมาตรฐานอุตสาหกรรมอื่น
ๆAdobe
Premiere Pro สามารถผลิตงานคุณภาพสูงได้ดี
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างไฟล์คุณภาพ เช่น MPEG2 หรือแปลงไฟล์ให้ได้รูปแบบสื่อวีดิโอที่หลากหลาย
คุณสมบัติต่างๆ
การทำงานแบบ Real-Time
Adobe Premiere Pro ได้เพิ่มความสามารถในการตัดต่อแบบ Real-Time
กล่าวคือ สามารถตัดต่อ ตกแต่งและดูผลงานที่สร้าง
ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องทำการ Render ก่อน ไม่ว่าจะใส่ Transition
การทำ Motion Path หรือการทำเอ็ฟเฟ็คต่างๆ
ก็ตามเราสามารถดูผลการปรับแต่งได้ที่หน้าจอแสดงผลควบคู่กับการตัดต่อพร้อมกันได้ และสามารถทำงานได้หลายซีเควนส์บนหน้าต่าง
Timeline เดียว Adobe Premiere Pro เปิดโอกาสให้เราตัดต่องานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
โดยสามารถเพิ่มซีเควนส์ และยังทำงานได้อย่างไม่จำกัดบนหน้าต่าง Timeline เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบรูปแบบของงานตัดต่อแต่ละชิ้นงานได้ทันที
โดยไม่ต้องสร้างโปรเจ็กต์ใหม่หรือเปิดโปรเจ็กต์อื่น ๆขึ้นมาให้ยุ่งยาก มีระบบปรับแต่งสีสันของโฟล์วิดีโออย่างมือโปร Adobe
Premiere Pro ขยายเช่น การแปลงไฟล์ ให้ได้รูปแบบสื่อวีดิโอที่หลากหลาย
เช่น การแปลงไฟล์เป็น DV,DVD,CD,VCD,SVCD เป็นต้น
นอกจากนั้นยังสามารถทำงานกับไฟล์ภาพนิ่งและภาพต่อเนื่อง ได้ เช่น TIFF ,
TIFF Sequence, PCX,Al Sequence เป็นต้น
|
คลิกที่ Start Program เลือกที่ All Program Adobe Premiere Pro 2.0 ดังรูป
จากนั้นเราจะพบกับหน้าต่าง Welcome to Adobe
Premiere Pro 2.0 ดังรูป
New
Project เป็นการเริ่มสร้างชิ้นงานใหม่
โดยเมื่อเราเริ่มทำงานเริ่มแรก เรายังไม่มีชิ้นงานที่เคยทำ ให้เราเลือกข้อนี้
|
Open
Project คือการเปิดชิ้นงานที่เราเคยเซฟไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์
เราสามารถเลือกข้อนี้ได้
Recent
Project คือ ชิ้นงานที่เราเคยเปิดมาแล้ว เคยทำผ่านมาแล้ว
รายชื่อชิ้นงานเราจะปรากฏที่นี่ เราสามารถคลิกเพื่อเข้าอย่างรวดเร็วได้
กรณีนี้ยังไม่มีชิ้นงานให้เราเลือกที่New Project เพื่อทำการสร้างโปรเจ็คใหม่แล้วจะเข้ามาสู้หน้าจอถัดไปดังรูป
|
คลิกที่ Browse เพื่อทำการเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการสร้างชิ้นงาน
ดังรูป
เมื่อสร้างโฟลเดอร์ที่ต้องการแล้ว ให้เราตั้งชื่อชิ้นงานที่เราต้องการสร้าง
|
หลังจากที่ได้ทำการตั้งชื่อไฟล์เรียบร้อยแล้วก็จะเข้าสู่หน้าจอการทำงานของเราต่อไป
โดยที่หน้าจอของเราจะประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้
ส่วนแรก คือ ส่วนทีใช้ในการแสดงไฟล์วีดีโอต่างๆ ที่เราทำการ Import
เข้ามา เพื่อใช้ในการตัดต่อ
|
ส่วนที่สามคือ หน้าจอ แสดงสถานะของคลิปวีดีโอ
ส่วนที่สี่ คือ Time Line ใช้สำหรับการตัดต่อ
แก้ไข ดัดแปลงวีดีโอของเรา โดยเราต้องนำคลิปลงไปใส่ใน Time Line เพื่อทำการแก้ไข
|
ทำความรู้จักกับเครื่องมือการใช้งานของโปรแกรม
Premiere
Pro
ชื่อเครื่องมือ
|
การทำงาน
|
|
Selection tool
|
ใช้ในการเลือกคลิป
และการย้ายคลิปต่างๆ ที่วางอยู่ในพาเนล Time Line
|
|
Track
Select Tool
|
ใช้ในการเลือกคลิปในลักษณะเดียวกับ
Selection
Tool แต่จะต่างกันตรงที่ Track Selection Tool จะใช้เลือกทุกคลิปที่เรียงต่อกันในแทร็กเดียวกับรูปก่อนการเลือก
ให้เราเลือกคลิปที่ต้องการ
|
|
Ripple
Edit Tool
|
ใช้ในการปรับความยาวในการแสดงคลิป
โดยการลดหรือเพิ่มเฟรมเหมือนกับ Ripple Edit Tool แต่จะไม่มีผลกับเวลารวมในการแสดงคลิป
เนื่องจากเราเพิ่มหรือลดความยาวเฟรมของคลิปหนึ่ง
อีกคลิปหนึ่งที่อยู่ติดกันก็จะมีผลต่อการเพิ่มหรือลดเฟรมของคลิปที่อยู่ติดกันนั้นด้วย
|
|
Rate
Stretch Tool
|
เป็นเครื่องมือที่ใช้ปรับความเร็วในการแสดงคลิป
โดยสามารถเพิ่มหรือลดความเร็วให้แก่คลิปนั้นๆ
โดยไม่มีการตัดช่วงเวลาของเฟรมออกไป เพียงแต่เพิ่มหรือลดความเร็วให้คลิปนั้นๆ
|
|
Razor Tool
|
เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการในการตัดต่อวีดีโอ
เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตัดและต่อวีดีโอและออดิโอออกเป็นส่วนๆ
แต่ถ้าคลิปวีดีโอของเรามีภาพและเสียงประกอบตั้งแต่แรก Razor Tool ก็จะทำการตัดทั้งภาพและเสียงออกไปพร้อมกัน
|
|
Slip Tool
|
เป็นเครื่องมือที่ใช้เลื่อนฉากในคลิป
โดยจะเป็นการขยับเฟรมที่ซ่อนไว้ให้
|
|
Slide
Tool
|
ใช้ในการปรับความยาวของคลิปรอบข้าง
โดยจะมีผลกับคลิปที่อยู่ด้านข้างทั้งซ้ายและขวา แต่จะไม่มีผลกับคลิปของตัวเอง
|
การนำคลิปวีดีโอเข้ามาเพื่อการใช้งาน
โปรแกรม Adobe Premiere cs6 สามารถรองรับการใช้งานของฟอร์แมตวีดีโอดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ประเภทของคลิป ประกอบไปด้วย
1. คลิปวีดีโอ เป็นคลิปที่มีการเคลื่อนไหวและเสียงรวมกัน
2. คลิปเสียง เป็นคลิปที่มีแต่เสียงอย่างเดียว
3. คลิปภาพ หรือเป็นรูปภาพนิ่งที่เราต้องการนำมาใช้ในการตัดต่อเพื่อเพิ่มสีสันให้ชิ้นงานของเรา
การนำคลิปวีดีโอเข้ามาใช้ในโปรแกรม Adobe Premiere cs6 สามารถทำได้โดยการ Import File เข้ามา โดยที่เราสามารถนำคลิปวีดีโอ , คลิปเสียง , คลิปรูปภาพก็ได้ ดังรูป
โปรแกรม Adobe Premiere cs6 สามารถรองรับการใช้งานของฟอร์แมตวีดีโอดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ประเภทของคลิป ประกอบไปด้วย
1. คลิปวีดีโอ เป็นคลิปที่มีการเคลื่อนไหวและเสียงรวมกัน
2. คลิปเสียง เป็นคลิปที่มีแต่เสียงอย่างเดียว
3. คลิปภาพ หรือเป็นรูปภาพนิ่งที่เราต้องการนำมาใช้ในการตัดต่อเพื่อเพิ่มสีสันให้ชิ้นงานของเรา
การนำคลิปวีดีโอเข้ามาใช้ในโปรแกรม Adobe Premiere cs6 สามารถทำได้โดยการ Import File เข้ามา โดยที่เราสามารถนำคลิปวีดีโอ , คลิปเสียง , คลิปรูปภาพก็ได้ ดังรูป
|
เมื่อเราได้ทำการ Capture VDO เสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือว่า เราได้เตรียมคลิปวีดีโอไว้เรียบร้อยแล้ว จึงจำเป็นต้องมีการนำคลิปเหล่านั้นมาทำการตัดต่อเรียบเรียงให้ได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการ การนำคลิปมาใช้ตัดต่อนั้นเราจำเป็นต้องทำการตัดต่อบน Time Line การนำคลิปวีดีโอเข้ามาใช้งานเราสามารถทำได้โดย ไปที่พาเนล Project ให้คลิกเมาส์ที่คลิปค้างไว้ แล้วลากคลิปไปปล่อยยังพาเนล Time Line ดังรูป
การสร้างไตเติ้ล (Title)
ไตเติ้ล (Title) เป็นตัวอักษรที่ใช้ประกอบในภาพยนต์
เพื่อสื่อถึงรายละเอียดของภาพยนต์นั้นๆ เช่น ชื่อเรื่องผู้สร้าง นักแสดง เป็นต้น ไตเติ้ลเป็นเหมือนคลิปวีดีโอคลิปหนึ่ง
ซึ่งเมื่อการสร้างไตเติ้ลขึ้นมาแล้วการใช้งานคล้ายกันกับการใช้งานคลิปวีดีโอ
สร้างไตเติ้ลตัวอักษรและภาพกราฟิก
เราสามารถสร้างไตเติ้ลได้หลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร ข้อความยาว หรือแม้กระทั่งภาพกราฟิกทรงเรขาคณิตต่างๆ และภาพกราฟฟิกใดๆ
ที่เรากำหนดเอง โดยที่เราสามารถนำรูปแบบการสร้างเหล้านี้ไปใช้ร่วมกับคลิปนั้น
|
การสร้างตัวอักษรเป็นเรื่องพื้นฐานของไตเติ้ลที่เราต้องศึกษาให้เป็นก่อน
โดยเราสามารถสร้างตัวอักษรในรูปแบบต่างๆ ได้ดังนี้
เข้าสู่การสร้าง ไตเติ้ล
ไตเติ้ลในโปรแกรม Premiere Pro นั้นเป็นคลิปหนึ่งๆ
ที่นำเข้ามาใช้งานร่วมกับการตัดต่อ สามารถทำได้ดังนี้
ในพาเนล Project ให้เราคลิ๊กที่ปุ่ม
ทำการตั้งชื่อ
ไตเติ้ล ที่เราต้องการ
|
การ Export
เพื่อเผยแพร่ไฟล์วีดีโอ
เมื่อเราทำการตัดต่อทั้งหมดในโปรเจ็คเรียบร้อยแล้วนั้น
เราจะยังไม่ได้ไฟล์วีดีโอที่สมบูรณ์แบบ คือ
ยังไม่สามารถนำออกไปเผยแพร่หรือใช้แสดงด้วยโปรแกรมเล่นภาพยนต์ต่างๆ ได้
ดังนั้นเราจึงต้องทำการ Export
งานของเราเสียก่อน เพื่อให้โปรแกรม Premiere Pro แปลงไฟล์โปรเจ็คงานเป็นไฟล์วีดีโอที่สามารถนำไปเผยแพร่ได้จริง
ในโปรแกรม
Premiere Pro เราสามารถ Export
งานได้หลายรูปแบบและหลายวิธีดังนี้
- Movie Export โปรเจ็กต์เป็นไฟล์วีดีโอ
- Audio Export โปรเจ็กต์เป็นไฟล์เสียง - Frame
Export โปรเจ็กต์เป็นไฟล์ภาพ
โดยแต่ละรูปแบบนั้นจะมีลักษณะของไฟล์ที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป
สาเหตุที่ต้องมีการ Export
เป็นไฟล์หลายรูปแบบวีดีโอนั้น
ก็เนื่องจากจุดประสงค์ของการทำงานของแต่ล่ะคนแตกต่างกันออกไป
บางคนอาจต้องการไฟล์งานเป็นไฟล์วีดีโอ บางคนต้องการเพียงภาพบางภาพจากวีดีโอ
|
โดยปกติแล้วโปรแกรม Premiere Pro จะตั้งค่าไฟล์มาตรฐานของการ
Export วีดีโอไว้ให้เป็น Microsoft DV AVI ไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเราจะสามารถทำการ Export ไฟล์วีดีโอได้เลย
ตัวอย่างการ
Export ไฟล์วีดีโอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น