วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557

ลักษณะของโปรแกรม การตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro


ลักษณะของโปรแกรม การตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro

         เป็นซอฟแวร์โปรแกรมที่ใช้ในงานตัดต่อวิดีโอและบันทึกตัดต่อเสียงที่แพร่หลายที่สุด สามารถผลิตผลงานได้ในระดับมืออาชีพ จนถึงการนำไปออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ (Broadcasting System ) มีการทำงานที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก สามารถจับภาพและเสียงมาวาง (Drag & Drop) ลงบนไทม์ไลน์ (Time line) เคลื่อนย้ายได้อิสระโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่มีการสูญเสียของสัญญาณภาพและเสียง เพียงผู้ผลิตรายการ ต้องมีทักษะที่ดีในการใช้โปรแกรมกับความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น
         Adobe Permiere Pro เป็นโปรแกรม ที่ใช้ตัดต่อภาพ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเป็น รวมไปถึงวิดีโอ แม้กระทั่งการทำงาน เกี่ยวกับเสียง ข้อความ หรือหากมีข้อมูลรูปภาพจากกล้อง ดิจิตอลอยู่แล้ว         ก็สามารถนำภาพที่ได้ถ่ายไว้มาตัดต่อ เพื่อสร้างเป็นภาพยนตร์สำหรับส่วนตัวได้
ความสามารถในการปรับและตรวจสอบค่าสี โทนสี ความสว่างและแสงเงา ของไฟล์วีดิโอได้มากขึ้น โดยสามารถแทนที่ค่าสีแล้วเปรียบเทียบกับไฟล์เดิมได้ในหน้าต่างเดียวกัน และยังสามารถตัดต่อเกี่ยวกับระบบเสียงได้มากขึ้นAdobe Premiere Pro เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างเอ็ฟเฟ็ครูปแบบต่าง ๆให้กับเสียง อีกทั้งยังเพิ่มการปรับแต่งเสียง ในระบบ 5.1 Channel นอกจากนั้นยังสามารถสร้างเสียงคุณภาพสูงได้ด้วย Audio Mixer
สนับสนุนการทำงานบนมาตรฐานอุตสาหกรรมอื่น ๆAdobe Premiere Pro สามารถผลิตงานคุณภาพสูงได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างไฟล์คุณภาพ เช่น MPEG2 หรือแปลงไฟล์ให้ได้รูปแบบสื่อวีดิโอที่หลากหลาย คุณสมบัติต่างๆ
         การทำงานแบบ Real-Time Adobe Premiere Pro ได้เพิ่มความสามารถในการตัดต่อแบบ Real-Time กล่าวคือ สามารถตัดต่อ ตกแต่งและดูผลงานที่สร้าง ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องทำการ Render ก่อน ไม่ว่าจะใส่ Transition การทำ Motion Path หรือการทำเอ็ฟเฟ็คต่างๆ ก็ตามเราสามารถดูผลการปรับแต่งได้ที่หน้าจอแสดงผลควบคู่กับการตัดต่อพร้อมกันได้ และสามารถทำงานได้หลายซีเควนส์บนหน้าต่าง Timeline เดียว Adobe Premiere Pro เปิดโอกาสให้เราตัดต่องานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น โดยสามารถเพิ่มซีเควนส์ และยังทำงานได้อย่างไม่จำกัดบนหน้าต่าง Timeline เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบรูปแบบของงานตัดต่อแต่ละชิ้นงานได้ทันที โดยไม่ต้องสร้างโปรเจ็กต์ใหม่หรือเปิดโปรเจ็กต์อื่น ๆขึ้นมาให้ยุ่งยาก  มีระบบปรับแต่งสีสันของโฟล์วิดีโออย่างมือโปร Adobe Premiere Pro ขยายเช่น การแปลงไฟล์ ให้ได้รูปแบบสื่อวีดิโอที่หลากหลาย เช่น การแปลงไฟล์เป็น DV,DVD,CD,VCD,SVCD เป็นต้น นอกจากนั้นยังสามารถทำงานกับไฟล์ภาพนิ่งและภาพต่อเนื่อง ได้ เช่น TIFF , TIFF Sequence, PCX,Al Sequence เป็นต้น

การสร้างชิ้นงานและการตั้งค่าชิ้นงานโปรแกรม Premiere Pro
     คลิกที่ Start Program เลือกที่ All Program Adobe Premiere Pro 2.0 ดังรูป

     จากนั้นเราจะพบกับหน้าต่าง Welcome to Adobe Premiere Pro 2.0 ดังรูป

     New Project เป็นการเริ่มสร้างชิ้นงานใหม่ โดยเมื่อเราเริ่มทำงานเริ่มแรก เรายังไม่มีชิ้นงานที่เคยทำ ให้เราเลือกข้อนี้

     Open Project คือการเปิดชิ้นงานที่เราเคยเซฟไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เราสามารถเลือกข้อนี้ได้ 
     Recent Project คือ ชิ้นงานที่เราเคยเปิดมาแล้ว เคยทำผ่านมาแล้ว รายชื่อชิ้นงานเราจะปรากฏที่นี่ เราสามารถคลิกเพื่อเข้าอย่างรวดเร็วได้
     กรณีนี้ยังไม่มีชิ้นงานให้เราเลือกที่New Project เพื่อทำการสร้างโปรเจ็คใหม่แล้วจะเข้ามาสู้หน้าจอถัดไปดังรูป

     คลิกที่ Browse เพื่อทำการเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการสร้างชิ้นงาน ดังรูป
     เมื่อสร้างโฟลเดอร์ที่ต้องการแล้ว ให้เราตั้งชื่อชิ้นงานที่เราต้องการสร้าง



     เมื่อเราสร้างชื่อเราเสร็จแล้วให้เราตั้งค่าความชัดของวีดีโอที่เราจะทำว่าจะมีความชัดยังไง ดังรูป
     หลังจากที่ได้ทำการตั้งชื่อไฟล์เรียบร้อยแล้วก็จะเข้าสู่หน้าจอการทำงานของเราต่อไป โดยที่หน้าจอของเราจะประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้
     ส่วนแรก คือ ส่วนทีใช้ในการแสดงไฟล์วีดีโอต่างๆ ที่เราทำการ Import เข้ามา เพื่อใช้ในการตัดต่อ

     ส่วนที่สองคือ หน้าจอ Monitor
     ส่วนที่สามคือ หน้าจอ แสดงสถานะของคลิปวีดีโอ
     ส่วนที่สี่ คือ Time Line ใช้สำหรับการตัดต่อ แก้ไข ดัดแปลงวีดีโอของเรา โดยเราต้องนำคลิปลงไปใส่ใน Time Line เพื่อทำการแก้ไข


     ส่วนที่ห้า คือ หน้าจอแสดงระดับเสียงและเครื่องมือที่ใช้ในการตัดต่อวีดีโอ
ทำความรู้จักกับเครื่องมือการใช้งานของโปรแกรม  Premiere Pro
ชื่อเครื่องมือ
การทำงาน
Selection tool
ใช้ในการเลือกคลิป และการย้ายคลิปต่างๆ ที่วางอยู่ในพาเนล Time Line
Track Select Tool
ใช้ในการเลือกคลิปในลักษณะเดียวกับ Selection Tool แต่จะต่างกันตรงที่ Track Selection Tool จะใช้เลือกทุกคลิปที่เรียงต่อกันในแทร็กเดียวกับรูปก่อนการเลือก ให้เราเลือกคลิปที่ต้องการ
Ripple Edit Tool
ใช้ในการปรับความยาวในการแสดงคลิป โดยการลดหรือเพิ่มเฟรมเหมือนกับ Ripple Edit Tool แต่จะไม่มีผลกับเวลารวมในการแสดงคลิป เนื่องจากเราเพิ่มหรือลดความยาวเฟรมของคลิปหนึ่ง อีกคลิปหนึ่งที่อยู่ติดกันก็จะมีผลต่อการเพิ่มหรือลดเฟรมของคลิปที่อยู่ติดกันนั้นด้วย
Rate Stretch Tool
เป็นเครื่องมือที่ใช้ปรับความเร็วในการแสดงคลิป โดยสามารถเพิ่มหรือลดความเร็วให้แก่คลิปนั้นๆ โดยไม่มีการตัดช่วงเวลาของเฟรมออกไป เพียงแต่เพิ่มหรือลดความเร็วให้คลิปนั้นๆ
Razor Tool
เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการในการตัดต่อวีดีโอ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตัดและต่อวีดีโอและออดิโอออกเป็นส่วนๆ แต่ถ้าคลิปวีดีโอของเรามีภาพและเสียงประกอบตั้งแต่แรก Razor Tool ก็จะทำการตัดทั้งภาพและเสียงออกไปพร้อมกัน

Slip Tool
เป็นเครื่องมือที่ใช้เลื่อนฉากในคลิป โดยจะเป็นการขยับเฟรมที่ซ่อนไว้ให้

แสดงออกมา โดยการใช้ Slip Tool นั้น จะไม่มีผลต่อความเร็ว และคลิปข้างเคียง
Slide Tool
ใช้ในการปรับความยาวของคลิปรอบข้าง โดยจะมีผลกับคลิปที่อยู่ด้านข้างทั้งซ้ายและขวา แต่จะไม่มีผลกับคลิปของตัวเอง
การนำคลิปวีดีโอเข้ามาเพื่อการใช้งาน
      โปรแกรม Adobe Premiere cs6 สามารถรองรับการใช้งานของฟอร์แมตวีดีโอดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ประเภทของคลิป ประกอบไปด้วย
1. คลิปวีดีโอ เป็นคลิปที่มีการเคลื่อนไหวและเสียงรวมกัน
2. คลิปเสียง เป็นคลิปที่มีแต่เสียงอย่างเดียว
3. คลิปภาพ หรือเป็นรูปภาพนิ่งที่เราต้องการนำมาใช้ในการตัดต่อเพื่อเพิ่มสีสันให้ชิ้นงานของเรา
การนำคลิปวีดีโอเข้ามาใช้ในโปรแกรม
Adobe Premiere cs6 สามารถทำได้โดยการ Import File เข้ามา โดยที่เราสามารถนำคลิปวีดีโอ , คลิปเสียง , คลิปรูปภาพก็ได้ ดังรูป


การแทรกคลิปต่างๆ ลงบน Time line
     เมื่อเราได้ทำการ Capture VDO เสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือว่า เราได้เตรียมคลิปวีดีโอไว้เรียบร้อยแล้ว จึงจำเป็นต้องมีการนำคลิปเหล่านั้นมาทำการตัดต่อเรียบเรียงให้ได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการ การนำคลิปมาใช้ตัดต่อนั้นเราจำเป็นต้องทำการตัดต่อบน Time Line  การนำคลิปวีดีโอเข้ามาใช้งานเราสามารถทำได้โดย ไปที่พาเนล Project ให้คลิกเมาส์ที่คลิปค้างไว้ แล้วลากคลิปไปปล่อยยังพาเนล Time Line ดังรูป

การสร้างไตเติ้ล (Title)
     ไตเติ้ล (Title) เป็นตัวอักษรที่ใช้ประกอบในภาพยนต์ เพื่อสื่อถึงรายละเอียดของภาพยนต์นั้นๆ เช่น ชื่อเรื่องผู้สร้าง นักแสดง เป็นต้น          ไตเติ้ลเป็นเหมือนคลิปวีดีโอคลิปหนึ่ง ซึ่งเมื่อการสร้างไตเติ้ลขึ้นมาแล้วการใช้งานคล้ายกันกับการใช้งานคลิปวีดีโอ
สร้างไตเติ้ลตัวอักษรและภาพกราฟิก
     เราสามารถสร้างไตเติ้ลได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร ข้อความยาว หรือแม้กระทั่งภาพกราฟิกทรงเรขาคณิตต่างๆ และภาพกราฟฟิกใดๆ ที่เรากำหนดเอง โดยที่เราสามารถนำรูปแบบการสร้างเหล้านี้ไปใช้ร่วมกับคลิปนั้น


การสร้างไตเติ้ลในรูปแบบตัวอักษร
    การสร้างตัวอักษรเป็นเรื่องพื้นฐานของไตเติ้ลที่เราต้องศึกษาให้เป็นก่อน โดยเราสามารถสร้างตัวอักษรในรูปแบบต่างๆ ได้ดังนี้
เข้าสู่การสร้าง ไตเติ้ล
     ไตเติ้ลในโปรแกรม Premiere Pro นั้นเป็นคลิปหนึ่งๆ ที่นำเข้ามาใช้งานร่วมกับการตัดต่อ สามารถทำได้ดังนี้ 
     ในพาเนล Project ให้เราคลิ๊กที่ปุ่ม

   
ทำการตั้งชื่อ ไตเติ้ล ที่เราต้องการ


   จะปรากฏหน้าต่างสำหรับสร้างไตเติ้ลขึ้นมา
การ Export เพื่อเผยแพร่ไฟล์วีดีโอ
     เมื่อเราทำการตัดต่อทั้งหมดในโปรเจ็คเรียบร้อยแล้วนั้น เราจะยังไม่ได้ไฟล์วีดีโอที่สมบูรณ์แบบ คือ ยังไม่สามารถนำออกไปเผยแพร่หรือใช้แสดงด้วยโปรแกรมเล่นภาพยนต์ต่างๆ ได้ ดังนั้นเราจึงต้องทำการ Export งานของเราเสียก่อน เพื่อให้โปรแกรม Premiere Pro แปลงไฟล์โปรเจ็คงานเป็นไฟล์วีดีโอที่สามารถนำไปเผยแพร่ได้จริง
ในโปรแกรม Premiere Pro เราสามารถ Export งานได้หลายรูปแบบและหลายวิธีดังนี้
- Movie Export โปรเจ็กต์เป็นไฟล์วีดีโอ - Audio Export โปรเจ็กต์เป็นไฟล์เสียง - Frame Export โปรเจ็กต์เป็นไฟล์ภาพ
     โดยแต่ละรูปแบบนั้นจะมีลักษณะของไฟล์ที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป สาเหตุที่ต้องมีการ Export เป็นไฟล์หลายรูปแบบวีดีโอนั้น ก็เนื่องจากจุดประสงค์ของการทำงานของแต่ล่ะคนแตกต่างกันออกไป บางคนอาจต้องการไฟล์งานเป็นไฟล์วีดีโอ บางคนต้องการเพียงภาพบางภาพจากวีดีโอ

การ Export ไฟล์วีดีโอ
     โดยปกติแล้วโปรแกรม Premiere Pro จะตั้งค่าไฟล์มาตรฐานของการ Export วีดีโอไว้ให้เป็น Microsoft DV AVI ไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเราจะสามารถทำการ Export ไฟล์วีดีโอได้เลย
ตัวอย่างการ Export ไฟล์วีดีโอ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น